ประเภทของ LC

ประเภทของ LC ข้อมูลจาก http://ethaitrade.com/2008/export-watch/example-letter-of-credit/

Revocable bank letter of credit
L/C สามารถถูกยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้โดยแบงค์ผู้ออกเอกสาร (Issue Bank) โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้รับเงิน (beneficiary)

Irrevocable bank letter of credit
ไม่สามารถยกเลิกได้ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากทุกฝ่าย (ผู้นำ้เข้า, applicant,และผู้ส่งออก, beneficiary) ซึ่งเป็นแบบที่้ใช้มากที่สุด

Standby bank letter of credit
เป็นแบบที่ยืนยันว่าได้รับเงินแน่นอน ถ้าผู้ส่งออก (beneficiary) ถูกเบี้ยวจากลูกค้า (applicant) ก็สามารถยื่นเรื่องขอเงินที่ไม่้ได้รับจาก(บทความนี้มาจาก eThaiTrade.com) bank ได้ ส่วนมากจะใช้ L/C แบบนี้กับลูกค้าขาประจำเพราะไม่ยุ่งยาก

Revolving bank letter of credit
ถ้ามีการทำการค้าขายกันอยู่เป็นประจำระหว่างผู้นำ้เข้าและผู้ส่งออก ก็อาจจะใช้ L/C แบบนี้เพื่อไม่ต้องออก L/C ทุกครั้งที่มีการส่งของ ส่วนมากจะใช้ L/C แบบนี้กับลูกค้าขาประจำเพราะไม่ยุ่งยาก

LC,L/C : letter of credit

วันนี้นั่งทำงานฟัง Knowledge transfer อยู่ ก็ได้ยินเรื่อง LC ซึ่งคำว่า LC เป็นคำผ่านๆหู มาตลอด แต่สักพักก็มีคนถามว่าคืออะไร L/C คืออะไร ผมก็ตอบได้แค่ว่า LC คือ Letter of credit

แต่มานั่งคือดูอีกที ว่าจะอธิบายเกี่ยวกับ letter of credit ว่าคืออะไร ทำงานอย่างไรกลับอธิบายไม่ถูก เลยต้องทำกิจกรรมหาความหมาย กันอีกคำหนึ่งว่า LC คือ อะไร

จากการสรุปที่ได้หาความรู้ในเว็บไซต์ต่างๆ

เอกสารผู้ซื้อที่ได้รับจากธนาคารเพื่อใช้ค้ำประกันการจ่ายเงินกับผู้ขาย


ความหมายของ LC ที่ผมลองรวบรวมไว้

-----------------------------------------------
ตามมาตรฐาน letter of credit คือ เอกสารที่ออกโดยสถาบันการเงินซึ่งถูกใช้เป็นอย่างแรกในการเงินค้าขาย ซึ่งสามารถใช้ยืนยันการจ่ายเงินแทนได้

A standard, commercial letter of credit is a document issued mostly by a financial institution, used primarily in trade finance, which usually provides an irrevocable payment undertaking.
http://en.wikipedia.org/wiki/Letter_of_credit

-----------------------------------------------
เป็นเอกสารที่รับรองโดนธนาคารซึ่งการจ่ายเงินของผู้ซื้อให้กับผู้ชายที่จะได้รับในเวลานั้นในจำนวนที่ถูกระบุไว้ สำหรับในกรณีที่ผู้ซื้อไม่สามารถทำการชำระหนี้ได้ ธนาคารจะทำการชำระให้ก่อนเต็มจำนวนหรือส่วนใหญ่ในการซื้อ

http://www.investopedia.com/terms/l/letterofcredit.asp
What Does Letter Of Credit Mean?A letter from a bank guaranteeing that a buyer's payment to a seller will be received on time and for the correct amount. In the event that the buyer is unable to make payment on the purchase, the bank will be required to cover the full or remaining amount of the purchase.

------------------
L/C. เป็นเอกาสารที่ผู้ซื้อจะขอจากธนาคารในการรับรองคำสั่งซื้อซึ่งการจ่ายเงินสำหรับสินค้าที่จะถูกส่งมาจากผู้ขาย

โดยพื้นฐาน letter of credit ให้กับ ผู้ขายและรับประกันว่าผู้ขายได้รับการชำระเงินแน่นอน

โดยการจ่ายเงินในการสั่งซื้อ ผู้ขายทำการเสนอกับธนาคารในเรื่อง ปัจจัยต่างๆ เอกสารขนส่ง และการยืนยันในการขนส่งของสินค้าภายในกรอบเวลาที่ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้ในการค้าระหว่างประเทศเพื่อกำจัดความเสี่ยง เช่นพวกต่างประเทศ

http://www.investorwords.com/2774/letter_of_credit.html
L/C. A binding document that a buyer can request from his bank in order to guarantee that the payment for goods will be tranferred to the seller. Basically, a letter of credit gives the seller reassurance that he will receive the payment for the goods. In order for the payment to occur, the seller has to present the bank with the necessary shipping documents confirming the shipment of goods within a given time frame. It is often used in international trade to eliminate risks such as unfamiliarity with the foreign country, customs, or political instability.
--------------------------------

Gross และ Net

สิ่งที่ลูกค้าอยากดูในรายงานบ่อยๆ ตัวนึงคือ Gross และ Net ซึ่งคำกลางๆ นำไปใช้ขยายความเกี่ยวกับยอดขาย การเติบโต ซึ่งใช้ดูประสิทธิภาพของสิ่งนั้นๆ ว่ามีมากแค่ไหน

ซึ่งความหมายจาก http://dict.longdo.com/ คือ

gross [ADJ] ทั้งหมด

net [ADJ] สุทธิ (ราคา)

เช่นรายได้ปีนี้มี Gross เท่าไร และมี Net เป็นเท่าไร ซึ่งGross คือ ทั้งหมด ยังไม่หักอะไรทั้งสิน ส่วนNet คือหลังหักอะไรที่แต่ละองค์กรได้มีสูตรการคำนวณไว้แล้ว

ซึ่งสองคำนี้ เป็นคำกลางๆ โดยแต่ละวงการก็ใช้กัน ไม่ว่าเป็นการผลิต ส่วนผสม การขาย อื่นๆ อีกมากมาย แต่โดยส่วนใหญ่ผมจะเจอกับการขาย เรื่องกำไรมากกว่า
--------------------------------
Gross เป็นคำที่ใช้สำหรับค่ารวมที่ได้จากผลของกิจกรรมหรือการคำนวณบางอย่าง ซึ่งอาจใช้กับบางอย่างเช่น กำไรทั้งหมด หรือ การขายทั้งหมด โดย ค่าGross เป็นตัวเสนอภาพรวม ที่ยังไม่มีการหักลบไรจากค่า Gross

Net เป็นคำที่ใช้สำหรับค่ารวมหลังจากที่หักค่าต่างๆออกหมดแล้ว โดย Net เป็นค่าสุทธิหรือค่าทีเสร็จสิ้นจากการคำนวณหรือหักค่าต่างๆ หมดแล้ว โดยปกติ ค่า Net เป็นค่าต่ำสุดไม่สามารถต่ำกว่านี้ได้

Gross
The term gross refers to the total amount made as a result of some activity. It can refer to things such as total profit or total sales. Gross represents the "whole part". No deductions have been made from the gross value.

Net
Net refers to the amount left over after all deductions are made. Once the net value is attained, nothing further is subtracted. The net value is not allowed to be made lower.

http://homepages.cambrianc.on.ca/tutorial/thetutorialcentre/mathscience/math/gross%20versus%20net.htm

------------------------

Gross คือ กำไรจากธุรกรรมโดยไม่หักอะไรเลย

Ner คือ กำไรจากธุรกรรมหลังการหักต้นทุนสินค้าและต้นทุนการขายแล้ว

Gross is the profit from the transaction without deduction. Net is the profit from the transaction after deducting cost of goods and cost of the sale (manpower, taxes, rent, etc.)

http://wiki.answers.com/Q/What_is_the_difference_between_gross_and_net

Cost center

Cost center หรือ หน่วยต้นทุน เป็นสิ่งที่เวลาการตั้งค่าในโปรแกรม ERP นั้นเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นต่อการบริหารและการเรียกดูรายงานด้วย ซึ่งผมลองรวบรวมความหมายของคำว่า Cost center ที่เป็นภาษาไทยคือ หน่วยต้นทุน ไว้ดังนี้

ซึ่งสรุปที่ผมเข้าใจจากการรวบรวมครั้งนี้คือ Cost center คือ ตัวไว้แบ่งต้นทุนให้เป้นสัดส่วนในการทำงานการผลิต การบริหาร รวมทั้งให้ทราบต้นทุนในหัวข้อต่างๆ ได้ด้วย



Cost center คือ การแบ่งซึ่งเพิ่มให้กับต้นทุนขององค์กร แต่ไม่ได้เพิ่มโดยตรงกับกำไรขององคกร
http://en.wikipedia.org/wiki/Cost_centre_%28business%29

a cost centre is a division that adds to the cost of an organization, but only indirectly adds to its profit.



Cost center คือส่วนหนึ่งขององค์กรซึ่งไม่ได้เป็นกำไรโดยตรงของสินค้าและเพิ่มเป็นต้นทุนที่ให้บริษัททำงานได้

http://searchcrm.techtarget.com/definition/cost-center

A cost center is part of an organization that does not produce direct profit and adds to the cost of running a company.
------------------------------


Cost center คือการระบุ เขตภูมิภาค เครื่องจักร หรือ บุคคล ซึ่ง เป็นต้นทุนทางตรง และ ต้นทุนทางอ้อม ที่ถูกแบ่งไว้ลงบัญชี

http://www.businessdictionary.com/definition/cost-center.html
1. Defined geographical area, machine, or person to whom direct and indirect costs are allocated.

การทำให้แบ่งอย่างชัดเจนของ กอง ภาค หน่วย หรือ หน่วยงาน ซึ่งผู้จัดการเป็นคนรับผิดชอบสำหรับต้นทุนเพื่อเป็นต้นทุนงบประมาณ

2. Distinctly identifiable department, division, or unit of firm whose managers are responsible for its all associated costs and for ensuring adherence to its cost-budgets. Also called cost pool.


ส่วนประกอบของการผลิตที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ขององค์กร ที่ต้นทุนได้ถูกแบ่งและสำหรับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
http://www.answers.com/topic/cost-center

Non-revenue-producing element of an organization, where costs are separately figured and allocated, and for which someone has formal responsibility.
--------------

ส่วนประกอบของธุรกิจหรือองค์กรอื่นๆ ซึ่งที่ต้นทุนสามารถแยกออกมาได้ โดยส่วนหัวของแต่ละส่วนประกอบจะสามารถบันทึกเป็นบัญชีค่าใช้จ่าย โดย Cost center เป็นพื้นฐานขององค์กรขนาดใหญ่ที่ไว้ระบุหน้าที่รับผิดชอบและการควบคุมต้นทุน

http://financial-dictionary.thefreedictionary.com/Cost+centre

cost center
A segment of a business or other organization in which costs can be segregated, with the head of that segment being held accountable for expenses. Cost centers are established in large organizations to identify responsibility and to control costs.

-------------------------

Cost Center
A department or other section of a company where managers are directly responsible for costs. For example, consider a company that has a manufacturing department, a research and development department, and a payroll department. Each department could be a cost center, and the directors of each department would be responsible to keep costs to as low a level as possible. The company thus accounts for each cost center separately, which allows managers to take immediate responsibility for cost growth and credit for cost cutting.